สวัสดีค่าขอแนะนำตัวนะคะชื่อฟ้าค่า
วันนี้จะมารีวิวสถานที่เที่ยวทางภาคอีสานค่ะ เมื่อสิ้นปีที่ผ่านมาได้ไปเที่ยวทางภาคอีสานมาซึ่งอากาศก็เป็นใจในการไปพักผ่อนครั้งนี้มากคะ
ซึ่งช่วงสิ้นปีอากาศกำลังเย็นสบายกันเลยที่เดียว
มุ่งหน้าไปทางภาคอีสานสถานที่แรกที่จะแนะนำให้ทุกคนไปเที่ยวในช่วงเวลาหน้าหนาวที่จะถึงนี้ คือ ทะเลบัวแดง
หนองหาน กุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี
ที่นี้เป็นเทศกาลทะเลบัวแดงซึ่งเป็นเทศกาลใหม่เปิดตัวได้ไม่นาน มาที่นี่รับรองว่าทุกท่านจะได้ชมดอกบัว ซึ่งพร้อมใจกันออกดอกในบึงหนองหานสุดลูกหูลูกตาเป็นร้อยไร่
งดงามอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ จึงเป็นที่มาของคำว่า ทะเลบัวแดง
ซึ่งดอกบัวจะเริ่มบานในช่วงปลายเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ ของทุกปี
งดงามและน่ามาเที่ยวเพียงใดมาชมภาพกันค่ะ
สำหรับการเดินทางมาเที่ยวชมทะเลบัวแดง หากมีรถส่วนตัวก็จะสะดวกหน่อย
แต่ถ้าไม่มีรถส่วนตัวก็นั่งรถทัวร์สายอุดรธานีแล้วมาลงที่อำเภอกุมภวาปี
ไม่ต้องเข้าเมือง หลังจากนั้นก็เหมารถจากในตัวอำเภอมาที่นี่
แต่ถ้าใครนั่งเครื่องบินมาก็ต้องไปลงที่ตัวเมืองอุดรธานี แล้วเหมารถมาอีกทีเช่นกัน
ตัวฟ้านั้นมาโดยรถส่วนตัวกับครอบครัวเลยสะดวกค่ะ เมื่อมาถึงทะเลบัวแดงแล้วก็อาจมาติดต่อเช่าเรือซึ่งจอดเรียงรายกันอยู่ด้านหน้าบึงหนองหาน
ราคาก็จะอยู่ที่ลำละ 300-400 บาท นั่งได้ 7- 10 คน แล้วแต่ขนาดของเรือค่ะ
วิ่ง 1 รอบ ใช้เวลาประมาณ ชั่วโมงครึ่ง
หรือถ้าไปไกลถึงวัดก็เพิ่มอีก 200 บาท
สามารถใกล้ถึงดอกบัวอย่างใกล้ชิด คนขับเรือที่นี่น่ารักมากค่ะ
อยากหยุดถ่ายภาพตรงไหนก็ไม่มีบ่น
บริการคุ้มราคามาก
สำหรับสถานที่ต่อไปนะคะก็จะไปแวะพักท่านข้าวกันค่ะที่ร้านอาหาร
ร้านอาหารครัวชมโขง หนองคาย
ตลาดท่าเสด็จที่ร้านนี้อาหารออร่อยมากค่ะแล้วราคาก็กลางๆถือว่าไม่แพงมากค่า
ต่อไป วัดโพธิ์ชัย จ.หนองคาย เดิมชื่อ วัดผีผิว วัดนี้ใช้เป็นที่เผาผีหรือเผาศพ และมีผีดุ ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อใหม่ เป็นวัดโพธิ์ชัยใน สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ปัจจุบันเป็นสถานที่ประดิษฐานหลวงพ่อพระใส ซึ่งเป็นพระพุทธรูปขัดสมาธิราบปางมารวิชัย สมัยเชียงแสน ชั้นหลัง หล่อด้วยทองสุก (ทองคำ ที่มีเนื้อทองคำบริสุทธิ์ ประมาณ 92 เปอร์เซนต์ สีทองคำจะมีสีเหลืองเข้ม เรียกว่า สีทองสุก) มีพระพุทธลักษณะงดงามมาก ขนาดหน้าตักกว้าง 2 คืบ 8 นิ้ว สูงจากเบื้องล่างพระชงฆ์ ถึงยอดพระเกศ 4 คืบ 1 นิ้ว มีห่วงกลมขนาด หัวแม่มือจำนวน 3 ห่วง ติดกับพระแท่นซึ่งหล่อติดกับองค์พระใส สำหรับผูกเชือกติดกับยานเวลาที่อัญเชิญลงมาแห่รอบเมืองให้ประชาชนได้สรงน้ำในช่วงวันสงกรานต์ หลวงพ่อพระใส จัดสร้างขึ้นโดย พระราชธิดาพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช กษัตริย์แห่ง ล้านช้าง ทั้ง 3 พระองค์ คือ พระสุก พระเสริม และพระใส พระสุก นั้นได้จมลงที่แม่น้ำโขงขณะอัญเชิญลงมายังกรุงเทพบริเวณที่พระสุกจมลงชาวบ้านจึงเรียกว่า เวินพระสุก ยังปรากฏมาจนปัจจุบันนี้ ส่วนพระเสริมนั้นได้อัญเชิญลงมายังกรุงเทพฯ ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่วัดปทุมวนาราม
ต่อไปจะพาไปเติมพลังที่
ร้านคิงส์โอชา (ไข่กระทะต้นตำหรับ)
อุดรธานีไข่กระทะ
อาหารเชื้อชาติเวียดนาม เป็นอาหารที่นิยมทานกันในมื้อเช้า ของจังหวัดอีสานทางด้านตะวันออก อุดรธานี หนองคาย มุกดาหาร
อุบลราชธานี นครพนม สกลนคร เมืองอุดรธานี
ก็มีร้านไข่กระทะอยู่หลายร้าน คิงส์โอชา เป็นร้านอาหารเช้าเก่าแก่ ที่มีชื่อเสียงแห่งเมืองอุดรธานีร้านหนึ่ง เป็นสถานที่พบปะกันของข้าราชการ
พ่อค้า นักธุรกิจ ในตอนเช้า ทุกคนแวะมาทานอาหารเช้ากัน
อาหารที่มีชื่อเสียงของทางร้าน จะเป็น ไข่กระทะ สตูว์ไก่ สตูว์ซี่โครงหมู ซึ่งเป็นอาหารที่มาจากเวียดนาม โดยรับมาจากชาวฝรั่งเศษที่มาครอบครองเวียดนามอยู่นาน ดังนั้นไปอุดร ก็ต้องแวะไปทานไข่กระทะมื้อเช้าที่คิงส์โอชา ก่อน ไม่สนใจอาหารเช้าที่โรงแรมแล้ว เหมือนกันทุกที่
ร้านคิงส์โอชา เวลา 8.30 น. ลูกค้าเต็มร้าน
อาหารที่มีชื่อเสียงของทางร้าน จะเป็น ไข่กระทะ สตูว์ไก่ สตูว์ซี่โครงหมู ซึ่งเป็นอาหารที่มาจากเวียดนาม โดยรับมาจากชาวฝรั่งเศษที่มาครอบครองเวียดนามอยู่นาน ดังนั้นไปอุดร ก็ต้องแวะไปทานไข่กระทะมื้อเช้าที่คิงส์โอชา ก่อน ไม่สนใจอาหารเช้าที่โรงแรมแล้ว เหมือนกันทุกที่
ร้านคิงส์โอชา เวลา 8.30 น. ลูกค้าเต็มร้าน
สถานที่ต่อไป คือพิพิธภัณฑ์หอยหิน 150
ล้านปีและไดโนเสาร์ ตั้งอยู่บ้านห้วยเดื่อ
องค์การบริหารส่วนตำบลโนนทัน อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู ซึ่งเป็นเอกลักษณ์
และมรดกของจังหวัดหนองบัวลำภู มีการค้นพบฟอสซิลหอยกาบคู่อายุประมาณ 150 ล้านปี และฟอสซิลไดโนเสาร์ บรรพบุรุษ ที-เล็กซ์
อยู่ห่างจากตัวเมืองหนองบัวลำภูประมาณ 10 กิโลเมตร
บนเส้นทางสายหลัก หนองบัวลำภู – อุดรธานี
"UNSEEN
หนองบัวลำภู" แหล่งค้นพบฟอสซิลไดโนเสาร์และหอยหิน
องค์การบริหารส่วนตำบลโนนทัน อยู่ในลักษณะ ของ site Museum โดยจัดพื้นที่แสดงออกเป็น
6 โซน ประกอบด้วย โซนที่ 1 โซนต้อนรับ,
โซนที่ 2 โซนท่องจักรวาล, โซนที่ 3 โลกแหล่งกำเนิดชีวิต, โซนที่ 4 อาณาจักรนักล่า, โซนที่
5 มหัศจรรย์แห่งการเดินค้นพบ และโซนที่ 6 ตามรอยนักสำรวจ
เวลาให้บริการ
|
||
วันอังคาร
- วันอาทิตย์
|
||
หยุดวันจันทร์
(เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ ที่หยุดติดต่อกัน)
|
||
อัตราค่าเข้าชม
|
||
เด็ก
(สูง 80
ซม.ขึ้นไป)
|
10
บาท
|
|
ผู้ใหญ่
|
20
บาท
|
|
ชาวต่างชาติ
|
50
บาท
|
|
เข้าชมเป็นหมู่คณะ
(50
คนขึ้นไป)
|
||
เด็ก
|
8
บาท
|
|
ผู้ใหญ่
|
16
บาท
|
|
พระสงฆ์
/ แม่ชี / ผู้พิการ
|
ฟรี
|
สถานที่ต่อไปมุ่งหน้าไปที่
เชียงคาน จ.เลย ขอแนะนำที่พักก่อนนะคะ คือที่ วงศ์สายสิริ ศรีเชียงคาน ให้บริการห้องพัก
24
ห้องที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายและพร้อมที่จอดรถ
ดังนั้นคุณจะสะดวกสบายในการเดินทางไปท่องเที่ยวในที่ต่างๆได้อย่างง่ายดาย
เมื่อเวลาตอนเย็นถึงดึก
ก็จะมีเหมือนเป็นถนนคนเดิน เป็นตลาดกลางคืนของที่นี่ซึ่งมีของขายมากมาย
มีทั้งของฝาก ขอกิน ข้าวของเครื่องใช้
ในตอนเช้า ที่เชียงคานอากาศดีมากๆเหมาะแก่การพักผ่อนสุดๆค่ะ
พออาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันแล้ว ที่นี้ก็จะมีเทศกาลใส่บาตรข้าวเหนียว เมื่อพูดถึง
“ใส่บาตรข้าวเหนียว” เชื่อว่าในความคิดแรกของใครหลายๆ คน
มักจะนึกไปถึงประเพณีการใส่บาตรยามเช้าที่เลื่องชื่อ ณ หลวงพระบาง ประเทศลาว
บ้านพี่เมืองน้องของไทยขึ้นมาในทันทีแต่ความจริงแล้วจะมีสักกี่คนที่รู้ว่า ภายในอำเภอเล็กๆ
ติดริมฝั่งแม่น้ำโขงอย่างเชียงคาน จังหวัดเลย ทุกๆ
เช้าจะมีพระภิกษุออกเดินบิณฑบาตเรียงรายบนถนนสายริมโขง
เพื่อรอให้ชาวบ้านที่นี่ได้ใส่บาตรกันอยู่ตรงบริเวณหน้าบ้านของตนเองมาเนิ่นนานแล้วเช่นกัน
และนี่ถือเป็นวิถีชีวิตที่สงบ เรียบง่าย และงดงาม ไม่ต่างอะไรจากการใส่บาตรข้าวเหนียวอันเลื่องชื่อของหลวงพระบางเลย
เมื่อใส่บาตรเสร็จก็อยากจะพาเพื่อนๆทุกคนไปภูทอก
แต่ต้องรีบไปแต่เช้าๆนะคะ เพราะว่าพอเริ่มสายแล้วทะเลหมอกก็จะหมดแล้วค่า เมื่อไปถึงภูทอก ก็จะมีรถบริการรับ-ส่งขึ้นภูเพียง 25
บาท ภูทอก
จุดชมวิวทะเลหมอกที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเชียงคาน
มีลักษณะเป็นภูเขาสูง ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง
บนยอดภูเป็นที่ตั้งของสถานีโทรคมนาคมเชียงคาน
และเป็นจุดชมวิวทิวทิวทัศน์ที่สวยงามของอำเภอเชียงคานและลำน้ำโขงได้โดยรอบ
ตั้งอยู่บนถนนสายเดียวกันกับแก่งคุดคู้ซึ่งห่างจาก ตัวอำเภอเชียงคานประมาณ 3
กิโลเมตร
ใครที่ได้แวะมาเที่ยวเชียงคานไม่ควรพลาดการไปชมทะเลหมอกในยามเช้าที่นี่
นอกจากนี้ภูทอกจุดชมวิว ชมความงามของแม่น้ำโขง เมืองสานะคาม
และแก่งคุดคู้ได้อย่างชัดเจน ส่วนทะเลหมอกนั้นจะเจอมากน้อยหรืออาจจะไม่เจอเลย
ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละวัน
พอไปภูทอกเสร็จก็ไปต่อกันที่
แก่งคุดคู้หากใครมาเที่ยวเชียงคาน
มักจะไม่พลาดที่ จะ เดินทางไปยลโฉม ความสวยงามของแก่งคุดคู้ ก่งขนาดใหญ่
แห่งหนึ่งของไทย ที่เกิดจากการทอดตัว ของ แนวหิน ลงใน แม่น้ำโขง ประกอบด้วย
หินก้อนใหญ่ ๆ เป็นจำนวนมากจากการที่หินเหล่านี้อยู่ใต้น้ำเป็นเวลานาน
ทำให้หินเหล่านี้มีสีสันสวยงาม แก่งคุดคู้มีศาลาชมวิว บรรยากาศดีมากลมเย็นสบาย
มองออกมาจากศาลาไปทางลำน้ำ จะเห็นโขดหินคล้ายๆ กับ สันเขื่อนที่วางขวาง ลำน้ำ
จุดนี้แหละที่เป็นที่มาของคำว่า "แก่งคุดคู้"
บริเวณแก่งมีร้านอาหารบริการนักท่องเที่ยว บริการเรือหางยาวบริการนักท่องเที่ยว
ให้ได้สัมผัสกับธรรมชาติริมสองฝั่งโขง การเดินทางไปแก่งคุดคู้
สามารถเหมารถสกายแล๊ป รอบเมืองไปแก่งคุดคู้ได้ซึ่งห่าง จากตัวอำเภอเชียงคาน ประมาณ
3 กิโลเมตร
และสุดท้ายก่อนที่จะจากกันไป
ขอรีวิวอีกร้านอาหารหนึ่งที่ฮิตมากแถวเชียงคานนั่นก็คือ ร้านอิ่มอร่อยสมใจเชียงคาน
จ.เลย ร้านนี้อร่อยมากค่ะ
มีคนพื้นที่ก็บอกว่าอร่อยเลยมาลองทาน
จากคำแนะนำของร้านค้าแถวๆนี้ พิกัดอยู่บนถนนคนเดินเชียงคาน เมนูมีไม่มากนัก แต่อร่อยสุดๆค่ะ ราคาประมาณ40-60บาท
-ข้าวเปียกเส้น และข้าวเปียกเส้นใส่ไข่
-ไข่กระทะ
-ยำหมูยอ
จากคำแนะนำของร้านค้าแถวๆนี้ พิกัดอยู่บนถนนคนเดินเชียงคาน เมนูมีไม่มากนัก แต่อร่อยสุดๆค่ะ ราคาประมาณ40-60บาท
-ข้าวเปียกเส้น และข้าวเปียกเส้นใส่ไข่
-ไข่กระทะ
-ยำหมูยอ
สุดท้ายนี้ก็อยากฝากถึงเพื่อนๆคนไหนที่ยังไม่มีการวางแผนไปเที่ยวไหนสิ้นปีลองไปที่ภาคอีสานดูสิคะ แล้วจะฟินไปกับบรรยากาศที่เย็นสบาย และ ตลาดที่คลาสสิค
หรือไม่ว่าจะเป็นที่เที่ยวอีกมากมายลองไปเที่ยวกันดูนะคะ